นาทีนี้ต้องบอกเลยว่าไม่มีอะไรจะฮอตฮิตไปกว่าการเปิดตัวอาณาจักรศิลปะ และความคิดสร้างสรรค์แห่งใหม่บนถนนสิรินธรที่มีชื่อสะดุดหูว่า "ช่างชุ่ย"
พร้อมแลนด์สเคปสะดุดตาด้วยการยกเครื่องบินลำเก่ามาวางไว้เป็นไอโคนิคของโครงการ ซึ่งมีเนื้อที่กว้างขวางถึง 11 ไร่ ด้านในจัดวางอาคารนับสิบหลังที่ประกอบขึ้นมาจากของเก่า ของสะสม และวัสดุเหลือใช้ที่หลายคนอาจเรียกว่า ขยะ
ทว่าสำหรับลิ้ม-สมชัยส่งวัฒนาผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นในตำนาน Flynow และเป็นต้นคิดงานสร้างสรรค์จากคำว่า ชุ่ยกลับมองว่าของเก่าเหล่านี้มีเสน่ห์และเป็นดั่งระเบิดเวลาทางความคิดที่รอคอยให้นักสร้างสรรค์เข้ามาต่อยอด ซึ่งเมื่อความคิดสร้างสรรค์ได้ระเบิดออกก็อาจจะถึงเวลาที่ทำให้คนที่เข้ามาได้ร่วมกันตีความคำว่าชุ่ยในมุมต่างออกไป
สำหรับใครที่ยังสงสัยว่า "ช่างชุ่ย" มีอะไร และทำไมถึงต้องไปยังอาณาจักรแห่งความชุ่ย เรามีคำตอบ
ร้านอาหาร Na-Oh
มาถึงช่างชุ่ยแล้วไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับเครื่องบิน Lookheed L-1011 บอกได้เลยว่ามาไม่ถึง เพราะเครื่องบินลำนี้ได้กลายมาเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งกว่าจะได้เครื่องบิน Lookheed L-1011 มาจอดอยู่บนถนนสิรินธรไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงกับต้องตัดชิ้นส่วนแล้วใช้รถบรรทุก 18 คันในการขน และนานเกินรอเครื่องบิน Lookheed L-1011 ก็จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นห้องอาหาร นาโอ (Na-Oh) ที่ล้อมาจากโนอา
"แดกดิ้น"ฟูดเซ็นเตอร์
ไม่ต้องช็อปปิ้งก็สามารถฟินได้กับฟูดเซ็นเตอร์สุดแนวนามว่า "แดกดิ้น" ที่นอกจากจะตกแต่งด้วยของเก่า ของสะสมจนทำให้บรรยากาศการกินคล้ายกับกำลังนั่งอยู่ในอาร์ตแกลเลอรีแล้ว แดกดิ้นยังมีดีที่เรื่องของเพลงเก่า และอาหารซึ่งคัดสรรเฉพาะของอร่อย อาทิ ขนมจีบต้มยำ ลาบคั่ว ข้าวขาหมูตรอกซุง และขนมหวานเซ็งซิมอี้
กาแล็กซี่บาร์เบอร์
หลีกหนีร้านตัดผมสไตล์วินเทจแบบเดิมๆ ด้วยร้านตัดผมสุภาษบุรุษที่ให้บรรยากาศของภาพยนตร์ไซไฟสุดล้ำไปนอกโลก แถมด้วยน้ำแข็งใสให้ได้เย็นฉ่ำเป็นการผ่อนคลายระหว่างตัดผม
เรือนต้นไม้หัวกะโหลก
Skull Corner เป็นร้านต้นไม้ขนาดย่อมที่นำสัญลักษณ์ของความตายและความแห้งแล้งอย่างหัวกะโหลก มาตีความใหม่ให้เข้าถึงง่ายและไม่น่ากลัวด้วยการผสมผสานกับความร่มรื่นของพรรณไม้ หรือแม้กระทั่งนำมาเป็นลายปักผ้า และกะถองกระบองเพชรสุดแนว
โรงมหรสพ "ดูจิตแล้วอะไรก็ช่าง"
โรงมหรสพที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นทั้งโรงภาพยนตร์และเวทีการแสดง โดยในส่วนของภาพยนตร์นั้นเน้นไปที่หนังนอกกระแสโดย Documentary Club ส่วนการแสดงนั้นออกแบบโดยศิลปินศิลปาธร พิเชษฐ์ กลั่นชื่น
หย่อนญาน
ใครที่ชอบกาแฟ รักหนังสือ และลิ้มรสอาหารอร่อยให้ตรงมาที่อาคารหย่อนญานซึ่งเป็นการรวมตัวระหว่างร้าน หนังสือ The Booksmith ร้านกาแฟ One Ounce for Onion และของกระจุกกระจิกจากร้าน ละมุน ซึ่งขอไฮไลต์ตรงนี้เลยว่า One Ounce for Onion นั้นพิเศษกว่าสาขาปกติด้วยอาหารกลิ่นอายเอเชียที่การันตีความอร่อย
ร้านน้ำชา Thé Tea House
ใครที่ติดใจรสชามาริอาจแฟร์ (Mariage Frères) ของฝรั่งเศส และชื่นชอบบรรยากาศวินเทจของร้านน้ำชาที่ตั้งอยู่ในเอาท์เลท Flynow ที่หัวหิน ตอนนี้ เตทีเฮาส์ (Thé Tea House) ได้มาเปิดสาขาสองที่ช่างชุ่ยแล้ว
อาเหนกป้าสง
ความแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างช่างชุ่ยกับคอมมิวนิตี้ทั่วไปอยู่ที่การใส่ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่รู้จักจบ เช่นที่อาคารอาเหนกป้าสงหลังนี้ที่ถูกใช้เป็นอาคารอเนกประสงค์ สามารถจัดกิจกรรมได้ทุกอย่างตั้งแต่ตลาดงานอาร์ต ตั้งวงเสวนา แกลเลอรี่ เป็นต้น
ชุ่ยเจริญ
ใครเป็นนักช็อปของเก่า ของสะสม ที่ชุ่ยเจริญแห่งนี้จะคัดสรรสารพัดสิ่งของจากทั่วทุกแห่ง ทั้งงานศิลปะ ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า เครื่องประดับ ทั้งชิ้นเล็ก ชิ้นใหญ่ ครบจบที่เดียว
Happening Box
ร้านขายงานดีไซน์ หนังสือ แผ่นเสียง ไปจนกระทั่งของกระจุกกระจิกหลากหลายแบรนด์ ที่การันตีความน่ารัก น่าซื้อ
ช่างเชื่อม
อาคารหลังนี้เป็นความร่วมมือระหว่างช่างชุ่ย กับ คุณบอย โกสิยพงษ์ ซึ่งแน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของอาคารนี้ย่อมสร้างมาเพื่อผู้รักเสียงเพลง ไม่วาสจะเป็นคอนเสิร์ต ร้านขายเพลง แผ่นเสียง ทุกอย่างเกี่ยวกับการดนตรีจากทุกค่ายเพลงล้วนกำลังเกิดขึ้นที่ช่างเชื่อมแห่งนี้
แหล่งรวมคราฟท์เบียร์
สำหรับสายกินดื่ม ที่นี่เป็นอีกแหล่งรวมคราฟท์เบียร์ ทั้งไทยและต่างประเทศโดยจัดเสิร์ฟในร้าน Old man Café และ ร้านโหย รวมทั้งกำลังจะเปิดร้านใต้มุ้ง เป็นโรงสุราไทยแท้เช่นสาโท และอุ
ทำดะ
งานนี้เกมโซนก็มาในชื่อทำดะที่รวมทั้งเวิร์คช็อป เกม และผลิตภัณฑ์จากการคิด เล่น และลงมือทำ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
