ในช่วงเทศกาลวันหยุดเข้าพรรษา ที่รัฐบาลประกาศเป็นวันหยุดต่อเนื่อง 5 วัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวจังหวัดบึงกาฬเอง และจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดสกลนคร นครพนม หนองคาย และอุดรธานี พาลูกหลานญาติมิตรไปเที่ยวชมน้ำตกถ้ำพระกันเป็นจำนวนมาก ทำให้มีเงินสะพัดในท้องถิ่นวันละหลายแสนบาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าที่พักค่าอาหารการกินและค่านั่งเรือโดยสารเข้าไปชมน้ำตกไป-กลับ ผู้ใหญ่ 20 บาทเด็ก 10 บาท ซึ่งมีคนมาเที่ยวประมาณ 500-2,000 คนต่อวัน โดยน้ำตกถ้ำพระตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว และอยู่ติดกับวัดถ้ำพระภูวัว บ้านถ้ำพระ หมู่ที่ 9 ต.โสกก่าม อ.เซกา จ.บึงกาฬ อยู่ห่างจากจังหวัดบึงกาฬประมาณ 80 กิโลเมตร เส้นทางไปมาสะดวก เมื่อเดินทางไปถึงบ้านถ้ำพระต้องรอลงเรือโดยสารที่เปิดจุดให้บริการ 2 จุด และเรือนั่งได้ 25 คนต่อเที่ยวเพื่อวิ่งทวนน้ำขึ้นไปยังน้ำตกถ้ำพระ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงจุดลงเรือ จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร ก็จะถึงน้ำตกถ้ำพระที่มีความสวยงามมาก
วันหยุดยาวนักท่องเที่ยวแห่เล่น ‘น้ำตกถ้ำพระ’ ชมความงามหุบเขาแอ่งกระทะ
โดยเมื่อเดินขึ้นมาบนลานหินทรายด้านหลังก็จะเห็นหุบเขารูปแอ่งกระทะขนาดประมาณ 200 ตารางเมตร บริเวณลานน้ำตกชั้นบนเป็นผาหินทรายกว้างประมาณ 100 เมตร สูงประมาณ 50 เมตร น้ำจะไหลตกลงมายังแอ่งด้านล่างที่มีแนวพนังปูนกั้นน้ำเอาไว้ใช้หน้าแล้ง และเหมาะสมที่นักท่องเที่ยวทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่ลงเล่นได้อย่างปลอดภัย เพราะน้ำไม่ลึกมากนัก เมื่อน้ำล้นแอ่งใหญ่ก็จะไหลไปตามลานหินและซอกหินต่างๆ ลงสู่เบื้องล่าง นักท่องเที่ยวก็จะปล่อยตัวให้ไหลไปตามน้ำตามโขดหิน และซอกหินเรียกว่าเป็นสไลเดอร์ธรรมชาติอันสายงาม
ส่วนที่เรียกชื่อกันว่า "น้ำตกถ้ำพระ" เนื่องจากสมัยที่พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ท่านมาจาริกบำเพ็ญเพียรสร้างบารมีอยู่ที่บริเวณนี้ ท่านไม่มีพระพุทธรูปซึ่งเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าติดตัวมาด้วย จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัยด้วยปูนปั้นไว้ที่หน้าผาเพื่อกราบไหว้บูชาสักการะ จึงเป็นที่มาของชื่อ "น้ำตกถ้ำพระ"
ที่มา : ข่าวสด