5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

ถึงจะเป็นหญิง แต่หน้าที่เพื่อแผ่นดินนั้นไม่ว่าใครก็พึงกระทำได้….

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

ประโยคเด็ดจากละครที่กำลังโด่งดังและถูกพูดถึงมากที่สุดในขณะนี้จะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจากละครเรื่อง "พิษสวาท" ละครดราม่าฟอร์มยักษ์แห่งปีทางช่อง one ซึ่งละครเรื่องนี้สร้างจากบทประพันธ์ของ ทมยันตี และได้นางเอกสาว นุ่น วรนุช มารับบท คุณอุบล นางรำหลวงที่ถูกสามี ขุนอรรค รับบทโดย ป้อง ณวัฒน์ ฆ่าตายให้เฝ้าสมบัติแผ่นดินซึ่งละครเรื่องนี้จะเป็นการตัดเรื่องไปมาระหว่าง อดีตชาติและปัจุบันแถมอิงประวัติศาสตร์จริงบางส่วนด้วยค่ะ เราจะเห็นได้ว่าโลเคชั่นของเรื่องนี้มีความสวยงามของวัด วัง ในอดีต หลายคนคงอยากทราบใช่ไหมละค่ะว่า ละครเรื่องนี้ยกกองไปถ่ายที่ไหนกันบ้าง วันนี้เราจะมาตามรอยสถานที่ท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์ไปกับละครดังเรื่องนี้กันเลยค่า...

1. วัดราชบูรณะ จ.อยุธยา

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

Cr : mx7.com

ในเนื้อเรื่องของละครพิษสวาทนั้น บอกถึงวิญญาณของนางรำคุณอุบล ที่ถูกสังหารโดยคนรักของเธอ ให้จองจำเฝ้าสมบัติไม่มีวันได้ไปเกิด สถานที่ที่เป็นที่มาของวิญญาณที่เฝ้ากรุสมบัติที่ถูกพูดถึงคือ พระปรางค์วัดราชบูรณะ เพราะสมัยก่อนวัดหลวง และวัดของตระกูลคนชั้นสูงที่สร้างเจดีย์ และพระปรางค์ จะมีการสร้างห้องเก็บสมบัติเอาไว้ที่ใต้ฐานเจดีย์ และพระปรางค์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเก็บไว้เพื่อเตรียมให้กับคนรุ่นหลัง สำหรับนำมาบูรณะบ้านเมืองหลังจากเกิดสงคราม และสมัยนั้นก็มีความเชื่อว่าจะต้องหาผู้ที่จงรักภักดีต่อชาติ เสียสละชีวิตเพื่อคอยเฝ้าทรัพย์สมบัติ วัดราชบูรณะปรากฏอยู่ในพระราชพงศาวดารว่า สร้างขึ้นในแผ่นดินสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒หรือ เจ้าสามพระยา ในปี พ.ศ. ๑๙๖๗ คือภายหลังจากสมเด็จพระนครินทราธิราชาสวรรคต กรุที่เก็บสมบัติอยู่ที่ พระปรางค์เป็นประธานขนาดใหญ่ สภาพโครงสร้างทั้งภายนอกและภายในยังมีบางส่วนค่อนข้างสมบูรณ์

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

Cr : mx7.com

ภายในพระปรางค์ส่วนฐานปรากฏว่ามีการสร้างกรุไว้เพื่อเก็บสมบัติ กรุชั้นล่าง ภายในห้องกรุชั้นนี้ เคยเป็นสถานที่เก็บสมบัติและของมีค่าไว้มากมาย อาทิ เช่น พระแสงขันธ์มงกุฎ และมงกุฏราชินี เสื้อทองคำ และพระพุทธรูปต่างๆ พระแก้ว พระทองคำ พระนาก เป็นต้น ซึ่งในปี พ.ศ.2499 ขณะที่กรมศิลปากรดำเนินการขุดแต่งภายในวัดมหาธาตุ คนร้ายได้ลักลอบ ขุดกรุในองค์ปรางค์ประธานวัดราชบูรณะได้ของมีค่าจำนวนมาก(ว่ากันว่าคนร้ายต้องนำของมาคืนเพราะโดนอาถรรพ์ค่ะ) กรมศิลปากรจึงดำเนินการขุดกรุในองค์ปรางค์ประธานอีกครั้ง พบเครื่องราชูโภคซึ่งทำด้วยทองคำพระพิมพ์ส่วนหนึ่งนั้นกรมศิลปากรได้เปิดให้ประชาชนเช่าไปบูชา เพื่อนำเงินส่วนหนึ่งมาสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา และนำสิ่งของที่ได้จากกรุมาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท หมายเหตุ ตั้งแต่เวลา
ประมาณ 19.30น.- 21.00น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน
ระดับความน่าตามรอย : ✰✰✰✰✰
ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การเดินทาง : หากเดินทางมาจากรุงเทพฯ โดยใช้ถนนสายเอเชีย(ทางหลวงหมายเลข 32 เลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกเข้าอยุธยา ตรงเข้ามาผ่านสะพานนเศวร ตรงไปจนถึงสี่แยกไฟแดงที่ 2 เลี้ยวขวาตรงไปไม่ไกลนัก ผ่านบึงพระราม จะเห็นวัดมหาธาตุอยู่ทางซ้ายมือ แล้ววัดราชบูรณะจะอยู่ถัดออกไป

2. ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท


5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

ฉากแรกในเรื่องพิษสวาทเป็นฉากการการรำเพื่อขอพรจากเทพเทวดาผู้ปกปักรักษาพระนครให้แผ่นดินรอดพ้นจากการรุกรานของทหารอังวะที่อยู่กำแพงค่ายยิงปืนใหญ่เข้ามาในพระนคร เหล่านางรำได้ยินเสียงปืนใหญ่แล้วเริ่มตระหนก มีเพียงอุบลที่ยังไม่เสียสมาธิ ด้วยความตั้งใจด้วยหน้าที่ "ถึงแม้กายเป็นหญิงแต่ก็รักชาติบ้านเมืองได้" เป็นฉากที่พาเราขนลุกไปกับความกล้าหาญของคุณอุบลจริงๆค่ะ ในส่วนของโลเคชั่นนั้น เราอาจคุ้นหูคุ้นตากันในละครแนวย้อนยุคหลายเรื่องเลยค่ะ กับฉากจำลองวัง สมัยอยุธยา ที่ พร้อมมิตรสตูดิโอ ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี มีความอลังการมาก เหมือนเราหลุดไปในสมัยฮยุธยาที่นี่จำลองสถานที่ของกรุงอโยธยาสมัยเป็นราชธานีไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งเป็นฉากต่างๆ ของภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เช่น วัดมหาเถรคันฉ่อง ห้องเก็บพระแสงปืนต้น อาณาจักรหงสาวดี สีหสาสนบัลลังก์ คุกใต้ดิน พระที่นั่งสรรเพชรปราสาท ท้องพระโรงหงสาวดี รวมถึงละครเรื่องพิษสวาทก็มาถ่ายทำที่นี่อีกด้วยค่ะ

เวลาทำการ : ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ ชาวไทย 100 บาท เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี 50 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท หมู่คณะลด 10%
ระดับความน่าตามรอย : ✰✰✰
การเดินทาง : กองถ่ายทำภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรตั้งอยู่ที่ตำบลลาดหญ้า อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 24 กิโลเมตร จากตัวเมือง ใช้เส้นทางกาญจนบุรี -เขื่อนศรีนครินทร์ (ทาง 3199) ประมาณ18 กิโลเมตร ถึงสี่แยกลาดหญ้า มีทางแยกขวาผ่านค่ายทหารไปอีก3 กิโลเมตรถึงทางเข้าให้เลี้ยวขวาไปอีก 2 กิโลเมตร


3. พระราชวัง จ.อยุธยา

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

เราได้เห็นฉากจำลองของพระราขวังโบราณที่เอาไว้ถ่ายทำละครย้อนยุคกันไปแล้ว แต่พระราชวังสมัยอยุธยานั้นมีอยู่จริงๆนะคะ ที่พระราชวังหลวงหรือพระราชวังโบราณ จ.อยุธยา ในเรื่อง พิษสวาท นั้นจะอยู่ในยุคของสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ หรือ พระเจ้าเอกทัศ มีพระนามเดิมว่า เจ้าฟ้าเอกทัศ เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 33 พระองค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงประทับอยู่ที่พระราชวัง ณ ที่แห่งนี้จริงๆค่ะ พระราชวังโบราณพระราชวังหลวงที่ปรากฏในพระนครศรีอยุธยาปัจจุบันคงเหลือแต่ฐานอาคารให้เห็นเท่านั้น สันนิษฐานว่าพระเจ้าอู่ทองสร้างพระราชวังตั้งแต่เมื่อครั้งประทับอยู่ที่เวียงเล็ก เมื่อพ.ศ.1890 และเมื่อสร้างกรุงเสร็จใน พ.ศ.1893 จึงย้ายมาประทับ ที่พระราชวังใหม่ริม หนองโสน พระที่นั่งต่างๆในครั้งแรกนี้สร้างด้วยไม้อยู่ในบริเวณซึ่งปัจจุบันเป็น วัดพระศรีสรรเพชญ์ต่อมาเมื่อ พ.ศ.1991 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงถวายที่บริเวณพระราชวังเดิมสร้างเป็นวัด ในเขต พระราชวัง เรียกว่า "วัดพระศรีสรรเพชญ์"แล้วทรงสร้าง พระราชวังหลวงใหม่เลื่อนไปทางทิศเหนือชิดริมแม่น้ำลพบุรีพระที่นั่งต่างๆในเขตพระราชวังหลวงหรือที่เรียกในปัจจุบันว่าพระราชวังโบราณเดิมเป็นที่ประทับของ พระมหากษัตริย์อยุธยาทุกรัชกาลค่ะ

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท


พระราชวังหลวงแบ่งออกเป็นเขตต่างๆ ดังนี้

1.เขตพระราชฐานชั้นนอก เป็นที่ตั้งของ พระที่นั่งจักรวรรดิ์ไพชยนต์ และส่วนราชการต่าง ๆ เช่น ศาลาลูกขุน ศาลหลวง ศาลาสารบัญชี เป็นต้น


2.เขตพระราชฐานชั้นกลาง เป็นที่ตั้งของพระมหาปราสาท 3 หลัง ได้แก่ พระที่นั่งวิหารสมเด็จ พระที่นั่งสรรเพชญ์มหาปราสาท พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์(ในละครพิษสวาทพระเจ้าเอกทัศใช้พระที่นั่งในการว่าราชกาล )

3.เขตพระราชฐานชั้นใน เป็นที่ตั้งของพระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ โรงเครื่องต้น และที่อยู่ของฝ่ายใน เป็นต้น
ถึงแม้ว่าจะเหลือแพ้แค่ซากปรักหักพังจากการทำสงครามและความเสื่อมโทรมตามกาลเวลาแต่ที่แห่งนี้ทำให้เราได้รู้ว่าในสมัยก่อนนั้นเมืองอยุธยายิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองแค่ไหน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-18.30 น.
ความพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30-21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน ด้วยแสงไฟและความมืดจะให้ภาพบรรยากาศแปลกอกไปจากตอนกลางวัน
ค่าเข้าชม : ชาวไทย 10 บาท
ระดับความน่าตามรอย : ✰✰✰✰✰
ที่ตั้ง :ถนนคลองท่อ, เทศบาลพระนครศรีอยุธยา, อยุธยา, อยุธยา
การเดินทาง : เดินทางเข้าถนนสายรอบกรุงผ่านจากวังจันทรเกษมไปเพียง 2 กิโลเมตรก็ถึงพระราชวัง

4. วัดพุทไธศวรรย์ จ.อยุธยา

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

เป็นอีกหนึ่งวัดหลักที่ใช้ถ่ายทำเรื่อง พิษสวาท ค่ะ เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งที่มีฐานะเป็นพระอารามหลวง ซึ่งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ (พระเจ้าอู่ทอง) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติแล้ว ๓ ปี

จุดน่าสนใจ
ปรางค์ประธาน องค์ใหญ่ศิลปะแบบขอม ตั้งอยู่กึ่งกลางอาณาเขตพุทธาวาสบนฐานไพที ซึ่งมีลักษณะย่อเหลี่ยมมีบันไดขึ้น 2 ทาง คือ ทางทิศตะวันออก และทางทิศตะวันตก ส่วนทิศเหนือทิศใต้มีมณฑปสองหลังภายในพระมณฑปมีพระประธาน

พระตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ประจำอยู่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตำหนักนี้อยู่ในสภาพค่อนข้างทรุดโทรมแต่ภายในผนังของตำหนัก มีภาพสีเกี่ยวกับเรื่องหมู่เทวดา นักพรต นมัสการพระพุทธบาทและเรือสำเภาตอนพระพุทธโฆษาจารย์ไปลังกา ภาพเหล่านี้อยู่ในสภาพไม่ชัดเจนนักค่ะ


ระดับความน่าตามรอย : ✰✰✰✰
ที่ตั้ง : ตั้งอยู่ในเขตตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
การเดินทาง : ใช้เส้นทางสายอยุธยา-เสนา ข้ามสะพานวัดกษัตราธิราชวรวิหารแล้วเลี้ยวซ้าย จะผ่านวัดไชยวัฒนาราม มีป้ายบอกทางเป็นระยะไปจนถึงทางแยกซ้ายเข้าวัดพุทไธศวรรย์


5. วัดพระขาว จ.อยุธยา

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

ฉากที่คุณอุบลต้องต่อรองกับพระยายม เพื่อให้ได้ออกจากกรุสมบัตินั้น เราจะเห็นเป็นกำแพงลายสีทองๆใช่ไหมคะ จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนั้นคือที่ วัดพระขาว ภายในวัด จะมีเรือนไทยฝาพนังเป็นลายรดน้ำสีทอง วัดพระขาวสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยในปี พ.ศ.๒๕๔๐ ทางวัดได้ทำการก่อสร้างอุโบสถหลังใหม่ทดแทนหลังเดิมซึ่งชำรุดทรุดโทรมทำการก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๔๕ ภายในอุโบสถ ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบประเพณี เช่น พุทธประวัติตรภูมิ มารผจญ ทศชาติ และภาพทวารบาล ที่มีความประณีตและสวยงามตามแบบฉบับไทย

5 ที่เที่ยวสุดปัง ตามรอยพิษสวาท

ระดับความน่าตามรอย : ✰✰✰
ที่ตั้ง : อยู่ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ตำบลน้ำเต้า อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาค ๒ ตั้งอยู่เลขที่ ๓๔ หมู่ที่๓ที่๓ ตำบลพระขาว อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


         เป็นไงบ้างคะสำหรับแหล่งที่เที่ยวตามรอยละครดังพิษสวาท สวยสดงดงาม น่าไปตามรอยสุดๆ บางสถานที่เราเองยังไม่รู้เลยว่า ที่ไทยมีที่สวยๆแบบนี้ด้วยหรอ เอาเป็นว่าสำหรับแฟนละครเรื่องนี้ถ้าอยากอินไปกับเนื้อเรื่องของละครละก็อย่าลืมไปเที่ยวสถานที่เหล่านี้กันนะคะ รับรองว่า ได้ทั้งความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และประทับใจกับความงามของสถานที่แบบว่า สวย เคลิ้ม มาก ค่ะ !!

ขอบคุณบทความดีดี จาก ::  mushroomtrave

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์