วันที่ 6 มกราคม 2560 นายสิธิชัย จินดาหลวง รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 29 ธ.ค.- 4 ม.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยต่างประเทศ เดินทางมาท่องเที่ยวหนองหานกุมภวาปี หรือที่เรียกติดปากกันว่า "ทะเลบัวแดง" เพื่อชมความสวยงามของดอกบัวแดง ที่เกิดและบานติดกันเป็นแปลงขนาดใหญ่ จากสถิติการลงเรือท่องเที่ยวมากถึง 53,394 คน แยกเป็นชาวไทย 45,559 คน ชาวต่างประเทศ 7,835 คน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ปีนี้มีท่าเรือท่องเที่ยวรวม 6 แห่ง ที่ทางราชการเข้าไปช่วยกำกับดูแล ให้มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งแต่ละท่าเรือมีจุดเด่นแตกต่างกัน อาทิ มองเห็นบัวแดงจากฝังท่าเรือ , การเลี้ยงควายในหนองหานกุมภวาปี และวิถีชีวิตการหาปลาแบบพื้นบ้าน โดยเฉพาะด้วยยอยักษ์จำนวนมาก โดยท่าเรือที่ได้รับความนิคมมมากที่สุด คือ ท่าบ้านเดียม รองลงมาเป็นท่าดอนคง ท่าเชียงแหว ท่าแชแล ท่าโนนน้ำย้อย และท่าคอนสายตามลำดับ" นายสิธิชัย กล่าว
นายสิธิชัย กล่าวต่อว่า ท่าเรือรอบหนองหานกุมภวาปี 6 ท่า ได้กระจายนักท่องเที่ยว ไม่แออัดกระจุกตัวอยู่จุดเดียว เหมือนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ให้ชาวบ้านเป็นวงกว้าง นอจากค่าโดยสารเรือรวม 3,356,000 บาท ชาวบ้านยังมีรายได้จาก การจำหน่ายอาหาร , เครื่องดื่ม , ผลิตผลทางการเกษตร , ผลิตภัณฑ์ชุมชน และพืชผลที่เก็บจากหนองหาน ตลอดจนภาคบริการอื่นๆ อาทิ โฮมสเตย์
นอกจากนี้ นายสิธิชัย กล่าวอีกว่า อุดรธานีได้กำหนดแผนท่องเที่ยวให้หนองหานกุมภวาปีเที่ยวได้ตลอดปี เพราะนอกจากความสวยงาม ทะเลบัวแดงช่วงเดือน ธ.ค.-มี.ค. ยังมีความเก่าแก่ของศาสนสถาน , วัฒนธรรมประเพณี , วิถีชีวิต , ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตปลา-นก-พืชน้ำ เฉพาะนกมีมากกว่า 200 ชนิด บางชนิดเป็นนกใกล้สูญพันธุ์ และตำนานรักพื้นบ้านผาแดง-นางไอ ที่เดนเรื่องสอดคล้องกับสถานที่ปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ ใครไม่เคยไปเที่ยวก็สามารถไปกันได้ เพราะ ทะเลบัวแดง ณ หนองหาน กุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เกิดมาทั้งทีต้องไปให้ได้สักครั้ง