สั่งคุมเข้มอุทยานฯ ทางทะเล-บก ที่ปิดเพื่อฟื้นฟูห้ามนักท่องเที่ยว-ผู้ประกอบการเข้าโดยเฉพาะแหล่งดำน้ำ เผยวันที่ 14 เม.ย.วันครอบครัวเปิดให้เที่ยวอุทยานฯ ฟรีทั่วประเทศ...
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ ได้ออกมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยและการบริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในอุทยานฯ ทั่วประเทศ เพื่อรักษาความปลอดภัย ป้องกันและบรรเทาอุบัติภัยในแหล่งท่องเที่ยว โดยให้หัวหน้าอุทยานฯ ประชาสัมพันธ์จุดที่ตั้งและหมายเลขโทรศัพท์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของศูนย์ประสานงานการป้องกันและบรรเทาอุบัติเหตุในท้องที่รับผิดชอบอย่างทั่วถึงและให้ตรวจความพร้อมของอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน โดยเฉพาะจุดล่อแหลมและอันตรายต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความพร้อมในการช่วยเหลือและกู้ภัย รวมถึงการประชาสัมพันธ์ กรณีเกิดเหตุในแหล่งท่องเที่ยวให้มีความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง โดยส่วนกลางที่กรุงเทพฯ ให้แจ้งได้ที่เบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) สายด่วน 1669
ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า ให้อุทยานฯ ทุกแห่งสำรวจ ซ่อมแซมวัสดุ อุปกรณ์ และยานพาหนะ เพื่อดูแลความปลอดภัยต่างๆ ให้พร้อมใช้งานและจัดเตรียมไว้ในที่ที่สามารถนำออกมาใช้ในยามฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว เช่น จัดเตรียมน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะให้เพียงพอ จัดเก็บเสื้อชูชีพ ห่วงชูชีพ เชือก ในที่จะสามารถนำไปใช้ได้สะดวกรวดเร็ว และติดตั้งป้าย/ทุ่น/ธงสี เพื่อการเตือนภัยเสริมในเรื่องข้อควรระวัง เช่น เขตห้ามเล่นน้ำ เขตที่ลึกน้ำวน หน้าผาชัน หินลื่น เป็นต้น ที่สำคัญให้กำหนดบริเวณการทำกิจกรรมนันทนาการต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น เส้นทางการเดินเรือ บริเวณดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก บริเวณสำหรับว่ายน้ำ ล่องแก่ง พายเรือแคนู เป็นต้น เพื่อการรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งลงทะเบียนข้อมูลนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวในอุทยานฯ ที่มีความเสี่ยงภัย เช่น เดินป่าระยะไกล จักรยานเสือภูเขา ล่องแก่ง ปีนหน้าผา ดำน้ำลึก ส่วนอุทยานฯ ทางทะเล และอุทยานฯ ทางบก ที่มีการปิดแหล่งท่องเที่ยว เพื่อความปลอดภัยและฟื้นฟูทรัพยากรมีความเข้มงวดในการควบคุมไม่ให้มีนักท่องเที่ยว หรือผู้ประกอบการรายใดเข้าไปในเขตที่มีการปิดการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกิจกรรมดำน้ำ และกิจกรรมอื่นๆ ที่ดำเนินการในทะเล