ท่องเที่ยวแบบเก๋ไก๋ สไตล์เมือง ราชบุรี
เริ่มที่โรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาเก่าแก่คู่เมืองที่เราต้องแวะทุกครั้งที่มาราชบุรี เรื่องสิ่งของเครื่องใช้อาจจะเป็นเรื่องรอง เพราะสิ่งที่ทำให้เราอยากเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่คือ ‘ความตั้งใจ’ ของติ้ว-วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ แกนนำศิลปินที่ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อพัฒนาเถ้าฮงไถ่และจังหวัดราชบุรีให้กลายเป็นเมืองศิลปะอย่างเช่นทุกวันนี้ และทุกครั้งที่มาก็มักจะพบคนระดับเจ้าของโรงงานพานักท่องเที่ยวเดินชมอธิบายที่มาและวิธีการผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ
ART NORMAL
อีกหนึ่งความคิดของทายาทรุ่นที่ 3 แห่งเถ้าฮงไถ่ที่อยากให้งานศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเมืองราชบุรีจริงๆ โดยนำงานศิลปะที่ปกติเห็นได้เฉพาะตามแกลเลอรี่ต่างๆ มาแทรกไว้ทุกที่ของชุมชน ตั้งแต่ร้านค้า บ้านเรือน สถานที่สาธารณะ ไปจนกระทั่งรถประจำทาง เรียกได้ว่าเดินไปที่ไหนก็จะมีงานศิลปะให้เห็นเต็มไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งร้านขายยาหรือร้านตัดผมก็ยังมีงานศิลปะจัดแสดงอยู่คิดดูแล้วกัน (ขอ Art Map จุดแสดงผลงาน 13 จุดได้ที่เถ้าฮงไถ่และหอศิลป์ d Kunst)
วัดมหาธาตุวรวิหาร
วัดคู่เมืองราชบุรีที่ครบเครื่องด้วยงานศิลปะยุคเก่าสมัยทวารวดี ทั้งพระปรางค์ที่ก่อด้วยศิลาแลงสูง 24 เมตร (ตอนเดินลงเล่นเอาใจหายอยู่เหมือนกัน) พระพุทธรูปหลากขนาดที่รวบรวมจากสถานที่โบราณในเมืองราชบุรี จิตรกรรมฝาผนังยุคเก่า ฯลฯ จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือเป็นวัดที่ร่มรื่นมาก บริเวณลานวัดให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านมากกว่าพื้นที่ทางศาสนา
จิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว
จิปาถะสมชื่อ เพราะที่นี่รวบรวมแทบทุกอย่างของชุมชนชาวล้านนาโบราณที่ย้ายมาจังหวัดราชบุรีไว้อย่างครบถ้วน ทั้งหม้อ ไห จาน ชาม เหรียญ เครื่องพิมพ์ดีด โทรเลข โทรศัพท์ ไปจนกระทั่งคอมพิวเตอร์ ฯลฯ บางอย่างเราก็แอบงงว่าเก็บไว้ทำไม แต่ก็ถือว่าเป็นความน่ารักในวิถีชีวิตของชุมชนหนึ่งที่แทบไม่มีส่วนไหนขาดตกบกพร่องไปเลย (ยกเว้นเงินโบราณที่เพิ่งโดนโจรบุกมาขโมยไปสดๆ ร้อนๆ ) แต่ของสำคัญที่สุดของที่นี่คือเป็นที่เก็บรวบรวมลายผ้าทอโบราณเกือบร้อยชนิด โดยเฉพาะลายเฉพาะตัวของชาวล้านนาโบราณที่หาดูได้ยากมากในปัจจุบัน
โรงแรม ณ เวลา
โรงแรมใหม่แกะกล่องที่เพิ่งเปิดให้บริการสดๆ ร้อนๆ ตามปกติเราต้องเดินทางลึกเข้าไปถึงอำเภอสวนผึ้งถึงจะเจอที่พักบรรยากาศดีที่ขึ้นชื่อของย่านนั้น แต่โรงแรมนี้มีให้ทุกอย่างทั้งๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง และการเอาวิถีชีวิตของคนราชบุรีอย่างเส้นสายของการทอผ้ามาประดับตกแต่งได้แบบไม่เคอะเขิน ที่สำคัญคือราคาเป็นกันเองมาก เริ่มต้นที่ 1,300 บาท และจบที่ห้องสวีทสุดหรูพร้อมห้องรับแขกในราคา 3,000 บาทเท่านั้น