เมื่อพูดถึงที่เที่ยวหน้าฝนต้องนึกถึงป่าเขียวขจีที่ดูชุ่มฉ่ำ ทะเลหมอกหนาๆ ที่ลอยฟุ้ง เป็นบรรยากาศดีๆ ที่หาไม่ได้จากฤดูไหน ใครชอบท่องเที่ยวธรรมชาติรับรองไม่ผิดหวัง กับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทยที่ไม่ควรพลาด ทั้งป่า ภูเขา น้ำตก มาครบ
9 ที่เที่ยวหน้าฝน ชมทะเลหมอก โอบกอดป่าเขียว
1. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว (จังหวัดอุตรดิตถ์, จังหวัดพิษณุโลก)หากพูดถึงภูสอยดาวช่วงหน้าฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี จุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวก็คือบริเวณลานสนสามใบภูสอยดาว ที่มีทุ่งดอกไม้บานสะพรั่งสวยงามท่ามกลางหมอกขาว ทั้งดอกหงอนนาคสีม่วง ดอกสร้อยสุวรรณาสีเหลือง และดอกหญ้ารากหอมสีม่วงเข้ม ยังมีน้ำตกให้ได้เที่ยวอีกด้วย เช่น น้ำตกภูสอยดาว น้ำตกสายทิพย์
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
น้ำตกภูสอยดาว
น้ำตกสายทิพย์
ลานสนสามใบภูสอยดาว
ลานหินลำน้ำภาค
2. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า (จังหวัดเลย, จังหวัดพิษณุโลก, จังหวัดเพชรบูรณ์)อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ารวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์เข้าไว้ด้วยกัน ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงหน้าฝนจะได้สัมผัสทั้งอากาศเย็นสบายและหมอกที่ลอยฟุ้งไปทั่วเลยทีเดียว ความสวยงามไม่ได้มีแค่นั้น ราวเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมบริเวณลานหินแตกและลานหินปุ่ม จะถูกปกคลุมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ทั้งมอส กล้วยไม้ ดอกไม้ แต่ที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดก็คือดอกเปราะภู บริเวณลานหินปุ่มที่ออกดอกสีขาวไปทั่วบริเวณ
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
ลานหินแตก
ลานหินปุ่ม
น้ำตกตาดฟ้า
น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร
น้ำตกศรีพัชรินทร์
น้ำตกหมันแดง
ผาชูธง
ภูแผงม้า
กังหันน้ำ
โรงเรียนการเมืองการทหาร
3. ภูทับเบิก (จังหวัดเพชรบูรณ์)
4. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม (จังหวัดชัยภูมิ)อุทยานแห่งชาติป่าหินงามในช่วงฤดูฝนคือตั้งแต่ช่วงมิถุนายน-สิงหาคม นักท่องเที่ยวจะได้ชมทุ่งดอกกระเจียวที่เบ่งบานไปทั่วตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน ดอกกระเจียวสีชมพูอมม่วงขึ้นตัดกับสีเขียวของต้นหญ้า เป็นหนึ่งในช่วงที่สวยงามและน่าไปเที่ยวมากที่สุดของอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
ลานหินงาม
เขาพนมโดม
จุดชมวิวสุดแผ่นดิน
น้ำตกเทพประทาน
น้ำตกเทพพนา
5. เขื่อนรัชชประภา (จังหวัดสุราษฎร์ธานี)เขื่อนรัชชประภาหรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "เขื่อนเชี่ยวหลาน" อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาสก ใครอยากพักผ่อนในบรรยากาศเงียบสงบ หน้าฝนนี้ต้องไม่พลาดไปนอนแพที่เขื่อนรัชชประภา ช่วงพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณสันเขื่อนจะกรุ่นไปด้วยไอหมอกที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว และความสวยงามของทะเลสาบเหนือเขื่อนที่เต็มไปด้วยภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตาและพื้นน้ำกว้างช่วยให้จิตใจสงบ พักผ่อนได้สบายๆ จนลืมเวลาแน่นอน
สถานที่ท่องเที่ยวในเขื่อนรัชชประภา
เขาสามเกลอ
ถ้ำน้ำทะลุ
6. เขาค้อ (จังหวัดเพชรบูรณ์)ว่ากันว่าเขาค้อสวยที่สุดในฤดูฝน ทั้งทะเลหมอกที่ลอยฟุ้ง ความเขียวขจีของภูเขาและอากาศเย็นสบาย ทำให้เขาค้อเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตช่วงหน้าฝนที่จะไม่ทำให้ผู้มาเยือนผิดหวัง ที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกหลายแห่ง สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ 10 ที่พักเขาค้อ วิวดีๆ หมอกเน้นๆ
สถานที่ท่องเที่ยวในเขาค้อ
วัดพระธาตุผาแก้ว
พระตำหนักเขาค้อ
แก่งบางระจัน
7. อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (จังหวัดเชียงใหม่)หลายๆ คนมักจะนึกถึงดอยอินทนนท์เฉพาะช่วงหน้าหนาว แต่ขอบอกว่าหน้าฝนก็สวยไม่แพ้กัน ไม่เพียงแต่อากาศเย็นสบายกำลังดีแล้ว ความชุ่มฉ่ำของสายฝนทำให้พื้นป่าในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เขียวสดยิ่งขึ้น ถ้าไปเที่ยวหน้าฝนแนะนำให้ไปเดินป่าที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งมีหลายแห่งด้วยกัน เช่น เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ป่าไม้ที่สวยงามจะทำให้รู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ยอดดอยอินทนนท์
พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
น้ำตกแม่กลาง
น้ำตกวชิรธาร
น้ำตกวังควาย
โครงการเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์
โครงการหลวงอินทนนท์
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ กิ่วแม่ปาน
เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติถ้ำบริจินดา
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว
8. วนอุทยานภูลังกา (จังหวัดพะเยา)เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรไปสักครั้งหนึ่ง ทิวทัศน์ของสายหมอกที่ไหลเอื่อยตามแรงลมผ่านทิวเขาเป็นวิวที่หาชมไม่ได้จากที่ไหนแน่นอน ถ้าใครพลาดทะเลหมอกในช่วงหน้าฝนยังมีทะเลหมอกช่วงหน้าหนาวให้ได้ชมเช่นกัน จุดชมวิวทะเลหมอกของภูลังกามีอยู่หลายจุด ที่นิยมกันคือบริเวณภูลังการีสอร์ท และภูเทวดา
สถานที่ท่องเที่ยวในวนอุทยานภูลังกา
ดอยภูนม
ภูเทวดา
ดอยภูลังกา
ดอยหัวลิง
10. น้ำตกทีลอซู (จังหวัดตาก)
การล่องเรือยางจากท่าทราย อำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง