รวม 10 ที่เที่ยวหน้าฝน ที่ไปแล้ว...ชิลดีแน่ๆ บางสถานที่ต้องไปให้ถูกช่วง ถูกเวลาครับ ไม่ใช่ว่าจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ 10 ที่ ที่รวบรวมมานี้ คือเหมาะกับการไปเที่ยวหน้าฝนเป็นที่สุดน่ะจ๊ะ รวมภาพและข้อมูลมาฝาก ใครที่ชอบเที่ยวสัมผัสธรรมชาติป่าเขาน่าจะชอบแน่ๆ
10 ที่เที่ยวหน้าฝนปีนี้ ไปแล้วฟินแน่!!
1. นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
ปล.ช่วงเวลาหน้าเที่ยวชมที่สุดคือช่วง ก.ค - ต.ค
- ก.ค จะเป็นช่วงนาดำ ช่วงที่พึงเริ่มดำน้ำใครอยากไปสัมผัสบรรยากาศช่วงดำนา วิถีชีวิตชาวบ้านและรอลุ้นแสงสะท้อนน้ำสวย ๆ ให้ไปช่วงนั้น
- กลาง ส.ค - ต้น ต.ค ช่วงนาเขียว เป็นช่วงที่ทุ่งนาเติบโตเขียวขจี มองดูแล้วสบายตา
- กลาง ต.ค - ต้น พ.ย ช่วงนาเหลือง เป็นช่วงที่รวงข้าวออกต้นเขียวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง พร้อมเก็บเกี่ยว ทุ่งนาจะเหลืองอร่ามสวยงามตอนที่ได้สัมผัสกับแสงแดด...
****การเดินทางเข้าไปยังบ้านป่าบงเปียง ค่อนข้างทุลักทุเลนิดหน่อย สามารถเข้าไปได้ 2 ทาง ทางแรกจาก ตัวเมือง อ.แม่แจ่ม ส่วนทางที่สอง จากยอดดอยอินทนนท์
- เส้นทางจากฝั่งดอยอินทนนท์ เมื่อขึ้นดอยอินทนนท์ขับไปเรื่อยๆ จนถึงด่านของอุทยานฯ จากนั้น เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกที่จะไป อ.แม่แจ่ม เส้นทางตรงนี้ถนนปกติแต่ทางจะแคบมากและโค้งเยอะ ขับกันช้า ๆ ไม่ต้องรีบน่ะครับ ขับเรื่อยๆไป 12 กิโลเมตร จะพบป้าย น้ำตกแม่ปาน เลี้ยวขวาลงไปตามป้ายจะผ่าน น้ำตกห้วยทรายเหลือง น้ำตกแม่ปาน และน้ำตกผาสำราญ เส้นทางจากตรงนี้ไปจะขรุขระมากต้องใช้รถ 4WD ของชาวบ้านเท่านั้น ระยะประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 20 นาที นั่งรถผ่านหินดินโคลนเข้าไป เล่นเอาคลื่นไส้ได้เหมือนกันน่ะ แต่แค่อึดใจเดียวก็ถึงบ้านป่าปงเปียง หากจะติดต่อรถเข้า แนะนำติดต่อ พี่วิชัย เจ้าของบ้านพักในบ้านป่าบงเปียง โทร 081 -0201691 ถ้าไม่ถึง 10 คน 800 บาท 10 คนขึ้นไป 1,000 บาท หรือถ้าหากพักที่บ้านแม่กลางบนดอยอินทนนท์ สามารถติดต่อรถกระบะนำเที่ยวพี่ บ้านแม่กลางหลวง 085 723 4957 ราคา 1500 บาท
-เส้นทาง2 ขึ้นจากฝั่งตัวเมืองแม่แจ่ม เส้นทางจะดีกว่า มาถึงที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มให้เลี้ยวขวา จะพบ 7-11 อยู่ฝั่งขวามือ ให้ตรงไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือไปยังวัดพุทธเอิ้นและนาขั้นบันไดบ้านกองกาน ให้ตรงไปจะพบบ้านต่อเรือมุ่งตรงไป ประมาณ 10 กิโล จะมาถึงบ้านทุ่งยาวขับตรงไป สังเกตุคือหลักกิโลแม่นาจร 16 เลี้ยวขวาจะเจอวัดทุ่งยาวให้เลี้ยวซ้าย เข้ามาประมาณ 1 กิโลจะเจอหมู่บ้านแม่มิงค์ สังเกตุป้ายเล็กๆจะบอกว่าไป ร.ร.อินทนนท์วิทยาเลี้ยวขวาจะพบหน่วยจัดการต้นน้ำ แม่อวม และก็จะมาถึงบ้านป่าตึงให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนทางลาดยางจะสิ้นสุดตรงนี้ ชับตรงไปประมาณ 1 กิโลจะพบทางแยก ทางซ้ายไปบ้านตีนผา ส่วนทางขวาไปบ้านป่าบงเปียง หากพักที่ อ.แม่แจ่ม ก็สามารถติดต่อเหมารถสองแถวเหลืองจาก อ.แม่แจ่ม ขึ้นมาได้ แต่จะได้ชมบรรยากาศแค่ช่วงเย็นเท่านั้น
2.อำเภอแม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน
...หนึ่งดินแดนที่ต้องไปเยือนในหน้าฝน.... "อำเภอแม่ลาน้อย" จ.แม่ฮ่องสอน สไตล์ของที่นี่เหมาะสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวายในเมืองกรุง มาพักผ่อนกับธรรมชาติ ป่าเขา ทุ่งนา วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรมากมาย เอามาแค่ตัวกับหัวใจที่ต้องการพักผ่อนก็พอ... ที่นี่มีโครงการดี ๆ อย่าง "โครงการบ้านแม่ลาน้อย" เป็นโครงการที่ชาวบ้านร่วมใจกันตามโครงการพระราชดำริฯ ของในหลวง ทั้งการปลูกผักปลอดสารพิษ (ผักอร่อยมาก) นาข้าวสวย ๆ ที่ควรไปเก็บภาพ และพืชผักผลไม้ต่าง ๆ ที่สามารถปลูกได้ในที่สูง... แนะนำให้ไปลองกัน... ในตัวเมืองแม่ลาน้อยมีที่พักชิล ๆ กลางทุ่งนาเหมาะกับการไปพักผ่อนมากอย่าง "เฮินไต รีสอร์ท" อาหารอร่อยฮะ)....
...ที่นี่มีความสบายตา และอากาศที่ดีตลอดปี.... หยาดฝนที่โปรยปราย สร้างความเขียวขจีให้กับทุ่งนา ป่าเขา และเกิดเป็นสายหมอกบางเบาลอยเอื่อย ๆ อยู่บนฟ้า .... คือได้ไปยืนมองอยู่ตรงนั้น.. ก็มีความสุขแล้ว...
ปล.ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการไปเที่ยวชมนาขั้นบันไดบ้านแม่ลาน้อย คือช่วง ก.ค - ต.ค ครับ
3.น้ำตกรูปหัวใจ ปิตุโกร หรือ ชื่อเดิมเปรโต๊ะลอซู อ.อุ้มผาง จ.ตาก
...ปิตุโกร...เป็นทริปสำหรับขาลุย ขาเลอะ ขารักธรรมชาติ ไม่เหมาะสำหรับคนรักสบาย... ไปที่นี่ร่างกายและจิตใจต้องพร้อมไปด้วยกันน่ะครับ... เพราะต้องเดินเท้าเข้าไปอาศัยกินนอนอยู่ในป่า 3 วัน 2 คืน ต้องเป็นคนที่กินง่าย นอนง่าย ขับถ่ายง่าย หรือถ้าไม่เป็น ก็ต้องหัดไว้ให้ชินฮะ มือใหม่ที่ไม่เคยเดินป่าเลยก็ไปได้ แต่ต้องฟิตร่างกายมาให้พร้อมจริง ๆ ต้องแบกของเองบางส่วนด้วย เพราะลูกหาบที่นี่มีน้อยมาก การจะไปที่นี่เองนั้นเป็นเรื่องที่ลำบากและไกล ต้องอาศัยคนนำทาง และคนจัดการให้เราฮะ... เอาง่าย ๆ เริ่มจากเดินทางมายังตัวเมือง อ.อุ้มผาง ให้ได้ก่อน จากนั้นค่อยใช้บริการนำเที่ยวของชาวบ้าน อ.อุ้มผาง ก็มีอยู่ไม่กี่เจ้าฮะ...
ที่ชิลดีเคยใช้และแนะนำเลยว่าเจ๋ง บริการดี อาหารอร่อย คนนำทางนิสัยดี เฮฮาปาจิงโกะมาก มีอยู่ 2 เจ้าคือ
- คำสิงห์โฮมสเตย์ 081-8139742
- ตูกะสู คอทเทจ โทร 055 - 561295, 081-8258238 หรือ www.tukasu.net
ปล.ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวที่นี่คือ ก.ค - ต.ค ยิ่งช่วงที่ฝนตกชุก ก็ยิ่งเห็นรูปหัวใจได้ชัดเจนขึ้น... เตรียมเสื้อกันฝน เสื้อผ้าที่แห้งง่าย ๆ ติดไปเลยฮะ แล้วก็กล้องกันน้ำ อุปกรณ์กล้องที่ไม่ควรโดนน้ำควรป้องกันดี ๆ เลย ยังไงก็ชุ่มฉ่ำแน่นอน เอิ๊ก ๆๆ...
4.ภูทับเบิกหน้าฝน จ.เพชรบูรณ์
... แต่ที่แน่ ๆ ภาพถ่ายทุกภาพในโพสนี้คือภาพที่ถ่ายจากฤดูฝนทั้งนั้น ไม่ได้ถ่ายจากวันเดียวกันทั้งหมด คือไปมาหลายรอบตั้งแต่ มิ.ย - ต.ค ยืนยันได้ว่าฤดูฝนมันฟินประมาณนี้น่ะ...ไปทุกรอบเจอหมอกทุกรอบ เพียงแต่เจอมาก เจอน้อยแตกต่างกันไปฮะ เหมาะสำหรับคนอยากไปนอนชิล ๆ หายใจทิ้ง หนีความวุ่นวายจากในเมือง... ชิลดีแนะนำสำหรับคนอยากไปพักผ่อนน่ะจ๊ะ...
5.น้ำตกทีลอซู อ.อุ้มผาง จ.ตาก
ช่วงเวลาหน้าเที่ยวคือ ต.ค - พ.ย คือเป็นช่วงที่ฝนเริ่มตกน้อยแล้ว จะได้เห็นน้ำตกใส ๆ และน้ำไม่แรงมาก อากาศเย็นสบาย
การเดินทาง
รถยนต์
จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน)เดินทางสู่ จ.ตาก โดยก่อนถึงตัวเมืองตาก 7 กม.ให้เลี้ยว ซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 5(ตาก-แม่สอด) สู่ อ.แม่สอด ในระยะทาง 86 กม. แล้วก็จะเจอทางหลวงหมายเลข 1090 สุดทางสาย 1090 ที่อุ้มผาง เส้นทางจากแม่สอดไปอุ้มผาง เป็นเส้นทางลอยฟ้า ระยะทาง 169 กม. มีโค้ง 1219 โค้ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง คนขับควรมีฝีมือในการขับรถที่ชำนาญพอสมควร ในการผ่านพ้นจากเส้นทางนี้ เส้นทางแคบและคดเคี้ยวไปตามไหล่ เขา
รถประจำทาง
นั่งรถจากสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ สายกรุงเทพ- แม่สอด ไปต่อรถเพื่อไปยังอำเภออุ้มผาง 120 บาทต่อคน โดยรถสองแถวจาก อ.แม่สอด ไปยังอุ้มผาง เที่ยวแรก 07.00น. ออกชม.ละคัน เที่ยวสุดท้ายเวลา 15.00 น.
6.ทุ่งดอกหงอนนาค ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์
..."เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติพิชิตลานสนภูสอยดาว" ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ 4 ของเมืองไทย มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถเที่ยวได้ตลอดปี เพราะทุก ๆ ฤดูจะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ฤดูหนาวสภาพอากาศจะหนาวจัด จนบางทีเกิดแม่คะนิ้งเต็มทุ่งหญ้าบนลานสนเลยครับ และก็ยังสามารถนอนเต้นท์ชมดาวสวย ๆ ตอนกลางคืนท่ามกลางลานป่าสน แค่คิดก็ชิลดีสุด ๆ แล้ว แต่ที่เรามาพิชิตครั้งนี้คือช่วงบรรยากาศของฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศบนยอดภูมากที่สุดตามสถิติของทางอุทยานฯ ทุกคนต่างบุกป่าฝ่าเนินต่าง ๆ ที่สูงชันและลื่นในช่วงหน้าฝนขึ้นมาเผื่อสัมผัสทุ่งดอกหงอนนาค ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ดอกหงอนนาคเป็นดอกที่ขึ้นอยู่บนดินทราย ต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ พวกมันจึงพร้อมใจกันบานในช่วงของฤดูฝน จะพบได้เยอะที่สุดก็คือช่วง สิงหาคม - กันยายนของทุกปี....
7.อำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
....ช่วงบรรยากาศต้นฝนแบบนี้ อากาศดีไม่ค่อยร้อน ป่าเขาเริ่มเขียวขจีเพราะฝนที่เริ่มตกตามฤดูกาล และไฮไลท์ของช่วงนี้คือวัดวัดวังก์วิเวการาม (เก่า)ที่เคยจมน้ำไปเมื่อช่วงปลายฝนถึงฤดูหนาว โผล่มาให้เฉยชมทั้งโบสถ์ หอระฆัง และยังมีทุ่งหญ้าเขียวขจีขึ้นปกคลุมบริเวณวัด ทำให้ดูสวยงาม สบายตาเข้าไปอีก...
..ลองมาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ และไอหมอกหน้าฝนดูน่ะครับ ^^ ..
8.บ้านทะเลหมอกภูลังกา จ.พะเยา
..คิดถึงหน้าฝน ได้เวลาล่าทะเลหมอกกันแล้ววว ^^ ...
บ้านทะเลหมอกภูลังกา อีกหนึ่งที่พักชิล ๆ ง่าย ๆ บ้าน ๆ มีระเบียงบ้านวิวดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยา
: ติดต่อสอบถามได้ที่ พี่นัท 081-921-5799
9.เขื่อนเชี่ยวหลานหน้าฝน จ.สุราษฎ์ธานี
...หลายคนสนใจอยากไปที่นี่ และหลายคนเคยถามผมว่า ช่วงไหนสวยที่สุด..? ... สำหรับการไปเยือนที่นี่เป็นสิบ ๆ ครั้ง.... ไปมาทุกฤดูแล้ว... บอกได้เลยว่าที่นี่สามารถเที่ยวได้ทั้งปี ด้วยความที่สภาพอากาศแปรปรวนไม่แน่นอน ทำให้สามารถเกิดฝนตกได้ทุกฤดู.... แต่ฤดูฝนจกตกชุกกว่าปกติเท่านั้นเอง.....ถ้าวันไหนฝนไม่ตก กลางวันก็ร้อน กลางคืนอากาศเย็นสบาย ส่วนหมอกตอนเช้ามีให้ชมทุกวัน อยู่ที่จะมากหรือน้อย.... ไม่สามารถบอกได้เลยว่าช่วงไหนสวยที่สุด หลายคนเลือกไปหน้าฝน เพราะคิดว่าหมอกอาจจะสวยที่สุด แต่บางทีไปช่วงหน้าฝน แล้วฝนไม่ตก 2 - 3 วัน ก็เคยเจอมาแล้วครับ ... สรุปแบบบ้าน ๆ ว่าไปฤดูไหนก็ได้แล้วแต่ดวงครับ ธรรมชาติไม่มีอะไรแน่นอน... พาตัวและใจไปอยู่ตรงนั้นก่อน... ที่เหลือให้ธรรมชาติได้สร้างสรรค์... ^^
สนใจสอบถามการเดินทาง ราคาที่พักหรือแพ็คเกจเที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลานได้ที่ พร-ฤทธิ์ ทัวร์(บริการนำเที่ยว กุ้ยหลินเมืองไทย เขื่อนเชี่ยวหลาน) 083-638-3861,090-171-8389
10. ดอยผาตั้ง จ.เชียงราย
- ผาตั้ง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่ง ของกองพล 93 ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผา สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต "ภูชี้ฟ้า" ประมาณ 30 ก.ม.
- ผาตั้ง มีจุดชมวิวหลายจุด มีหลายมุมให้เก็บภาพสวย ๆ คนชอบถ่ายภาพไปแล้วฟินแน่ ๆ แล้วก็คงปวดหัว เพราะไม่รู้จะเลือกมุมไหนดี เพราะมีให้เก็บมุมสวย ๆ หลายจุด และแต่ล่ะจุดก็อยู่ห่างกันพอสมควร ต้องเดินไป เช่น จุดชมวิวผาบ่องประตูสยาม /จุดชมวิวช่องผาขาด /จุดชมทะเลหมอกเนิน 102 / จุดชมทะเลหมอกเนิน 103 ..... แต่ล่ะมุมสวยงามแตกต่างกันไป จุดที่ไกลสุดคือ เนิน 103 ต้องเดินจากจุดจอดรถไป 1 กิโลเมตร ขึ้นเนินชันบางจุด เรียกเหงื่อได้ไม่เบาทีเดียว แต่คุ้มมาก เชื่อเหอะ...
- การเดินทาง ใช่ เส้นทางเชียงราย-เวียงชัย-พญาเม็งราย-บ้านต้า (ทางหลวงหมายเลข 1233, 1173 และ 1152) 50 กิโลเมตร บ้านต้า-บ้านท่าเจริญ (ทางหลวง 1020) 45 กิโลเมตร บ้านท่าเจริญ-เวียงแก่น-ปางหัด (ทางหลวง 1155)17 กิโลเมตร และปางหัด-ดอยผาตั้ง อีก 15 กิโลเมตร ผาตั้งจะอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต "ภูชี้ฟ้าประมาณ 30 กิโลเมตร " แล้วเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดชมวิว 103 สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน บนดอยผาตั้งมีที่พัก สถานที่กางเต็นท์และร้านอาหาร สามารถไปเที่ยวได้ตลอดปี หรือใครจะหาที่พักชิล ๆ วิวดี ๆ ก็มีแนะนำหลายที่ครับ
-ที่พักแนะนำวิวดี ราคาเบา ๆ อาหารอร่อย ๆ
ผาตั้งฮิลล์ รีสอร์ท โทร 083 7824433
บ้านกาแฟ โทร 08 4894 1608
ร่มฟ้าสยามฮิลล์ โทร 089 851 8743
ปล.สามารถเที่ยวได้ตลอดปี แต่ช่วงที่นิยมเที่ยวที่สุดคือช่วงฤดูหนาวของทุกปี อากาศจะหนาวเย็นมาก เหมาะสำหรับคนชอบไปเที่ยวสัมผัสอากาศบนยอดดอย... แต่หน้าฝนจะได้ความฉุ่มช่ำเขียวขจีมาแทน ต้องเลือกไปสัมผัสดูครับ... ^^
ที่มา : สมาชิก pantip.com หมายเลข 35455014