10 ข้อน่ารู้ ก่อนเดิน Apple Central World

เปิดให้คนทั่วไปสามารถลงทะเบียนเข้าเยี่ยมชม ใช้บริการ Apple Store กันไป ตั้งแต่เมื่อ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งถ้าใครติดตามข้อมูลของ Apple Store สาขานี้ น่าจะทราบถึงรายละเอียดของการออกแบบและสร้างที่น่าประทับใจ โดยข้อมูลของสาขานี้จะมีจากทั้งสื่อที่ทาง Apple ได้เชิญไป รวมถึงพนักงานในสาขาที่พาเดินเยี่ยมชม ซึ่งเราเห็นว่ามีอยู่เยอะมาก จนน่ารวบรวมเอาไว้ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันก่อนที่จะไปเดินกัน เพิ่มอรรถรสในการรับชม รวมทั้งหมด 10 ข้อ ดังนี้

Apple Store สาขานี้เป็นสาขาที่ 4th ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยก่อนหน้าจะมีที่สิงคโปร์ 2 แห่ง และที่ไทย 1 แห่ง ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 511 ของโลก และเป็นสาขาสุดท้ายที่ทาง Jony Ive รับผิดชอบ ก่อนจะลาออกจาก Apple เมื่อกลางปี 2019 ที่ผ่านมา2 โดยได้ออฟฟิศสถาปิกชื่อดังอย่าง Foster and Partners ที่ช่วยออกแบบ Apple Park มาช่วยดีไซน์ด้วย3

ด้วยความที่ Central World เป็นสาขาที่ต้องรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในช่วงเวลาปกติ ทำให้มีการคัดเลือกหาพนักงานที่พูดได้หลากหลายภาษา ซึ่งหากรวมภาษาทั้งหมดที่พนักงานในสาขานี้พูดได้จะมากถึง 17 ภาษา1

Apple Store @ Central World จะเป็นอาคารทรงกระบอก 3 ชั้นมี 2 ประตูเข้าออก (ทางเชื่อม BTS skywalk กับ ทางปกติเข้าห้าง) ภายนอกเป็นกระจกโค้งรอบด้านขนาดใหญ่ใหญ่พิเศษ สามารถกันความร้อนจากภายนอก มีการหักเหแสงน้อย ทำให้ดูจากด้านนอกหรือด้านในภาพจะไม่บิดเบี้ยวหรือเปลี่ยนขนาดเช่นกระจกทั่วไป โดยตัวกระจกจะเป็นการซ้อนกันสองบาน ทนต่อการทุบและกันกระสุน ขนาดที่ว่าสามารถใช้เป็นที่หลบภัยได้เลย2 (มีลือกันว่ากระจกนี้บานละเจ็ดล้าน) และวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างสาขานี้เป็นของที่ต้องนำเข้าทั้งหมด หาผลิตจากในไทยไม่ได้

ดีไซน์ภายใน เมื่อดูจากชั้น 2 จะเห็นเป็นลักษณะเหมือน Tree Canopy (ชั้นเรือนยอด) ของต้นไม้ ที่มองแล้วเหมือนการแผ่ขยายออกของกิ่งก้านและลำต้น มีเครื่องฟอกอากาศภายในอาคารมาให้เสร็จสรรพ ซึ่งส่วนนี้จะซ่อนเสาหลักที่เป็นแกนกลางของอาคารค้ำยันทั้งตึกเอาไว้ ทำให้เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็จะไม่มีเสาอื่นให้รกสายตาสามารถเดินชมวิวรอบๆได้แบบ 360⁰ ดีไซน์นี้จะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Apple Store สาขานี้สาขาเดียวเท่านั้นในโลก

พื้นผิวของเสาที่เห็นเป็นไม้นี้จะไม่ได้ใช้ตะปูหรือกาวในการยึดประกอบเข้าด้วยกัน แต่เป็นการกลัดเกี่ยวเข้าร่อง ไม้แต่ละชิ้นจะมีขนาดไม่เท่ากัน ถูกวัดและตัดมาเป็นขนาดของแต่ละตำแหน่งโดยเฉพาะ ไม่สามารถสลับตำแหน่งได้ วัสดุที่ใช้จะเป็นไม้สนนำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ซึ่ง Apple จะเลือกใช้ต้นไม้จากป่าปลูกที่เมื่อมีการตัดออกก็จะปลูกใหม่ทันทีไม่ทำลายสิ่งแวดล้อน และไม้เหล่านี้จะมาจากบนภูเขาลูกเดียวกันในทุกสาขา

ที่ชั้น 2 เราจะเห็นจอขนาดใหญ่ พร้อมที่นั่งรอบๆ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ที่เรียกว่า forum ซึ่งปกติบริเวณนี้จะถูกใช้ในการสอนใช้งานให้แก่ผู้ใช้สินค้า Apple หรือที่เรียกว่า Today at Apple ไม่ว่าคุณจะใช้ iPhone, iPad, Mac หรือยังไม่ได้ใช้สินค้า Apple เลย ก็สามารถจะลงทะเบียนเข้ามาขอรับฟังได้ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ มาสอนให้แบบฟรี ๆ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีคนเข้าร่วมการสอน (session) เยอะที่สุดในโลก โดยปีที่แล้วมีมากกว่า 4,000 sessions แม้ว่าจะมีเพียงแค่ Icon Siam สาขาเดียวก็ตาม1

ลายพื้นใน-นอกร้าน ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเป็นลายเดียวกัน เพื่อให้เกิดเป็นความกลมกลืน ไม่ตัดกันจนเสียความรู้สึก โดยตอนที่เจาะท่อ หากมีกระจกเป็นเพียงแค่ผนังกั้น และมีการวางม้านั่งหินหน้าร้าน และโดยรอบเพื่อสร้างบรรยากาศ รวมถึงปลูกต้นหูกระจง ที่ทำให้ดูเข้ากันดีมากด้วย

การเดินเชื่อมระหว่างชั้น จะมีทั้งบันไดและลิฟท์ โดยพื้นผิวของตัวลิฟท์จะใช้วัสดุเป็นสแตนเลสเคลือบเงาดูล้ำและเรียบหรู หากเลือกเดินบันได ให้ลองมองที่รายละเอียดบริเวณบันไดระหว่างชั้น 1 และ 2 จะเห็นว่ามีดีไซน์ที่โค้งมนไม่มีเหลี่ยม คาดแสตนเลสเพื่อให้ง่ายต่อการเดิน และดูโล่งโปร่งสบาย เพราะแต่ละขั้นจะทำให้มีช่องว่างจากกัน

ชั้น 1 จะมีโต๊ะจัดเอาไว้รวมทั้งหมด 12 ตัว แบ่งเป็นโต๊ะแสดงอุปกรณ์ Apple 10 ตัว ที่จะมีการซ่อนสายไฟเอาไว้อย่างเรียบร้อย ทำให้ภายในจะรู้สึกว่าจะมีความสะอาดตากว่าทุกที่ ไม่มีให้เห็นแม้แต่ใต้โต๊ะ ส่วนโต๊ะให้คำปรึกษา 2 โต๊ะ จะมีการซ่อนปลั๊กไฟเอาไว้ แค่เอามือปัดผ่านด้านข้าง ปลั๊กไฟก็จะพลิกขึ้นมาให้ใช้งานได้ และถ้าทำการซื้อของและพนักงานต้องหยิบของจากลิ้นชักเพิ่มเติม จะเห็นว่าไม่ได้ใช้กุญแจในการปลดล็อคแต่อย่างใด ใช้เป็น iPhone ในมือของพวกเค้าเองได้เลยอีกด้วย

ชั้นใต้ดิน กับห้องน้ำสุดไฮโซว ที่ถ้าหากคุณมาเยือนสาขานี้แล้ว ไม่ควรพลาดไปเช็คอินซะหน่อย ไม่เพียงแค่ห้องน้ำ ไม่มีการแยกเพศเป็นห้องซ้ายขวา และดีไซน์เรียบหรูแล้ว ความพิเศษที่มากกว่าก็คือใช้อุปกรณ์ Dyson ชิ้นนี้ที่ด้านนึงเป็น ก๊อกน้ำ อีกด้านก็เป็นที่เป่าลม (กระซิบราคาเบาๆว่าเฉพาะหัวนี่ 70,000 บาทเลยนะ) ถ้าเกิดว่าใครหิวน้ำและพกขวดหรือแก้วมาด้วย ก็สามารถมาเติมดื่มได้เลย

และในชั้นนี้ก็จะยังมีห้องสตาฟท์และ Board Room สำหรับนั่งประชุม เจรจาทางธุรกิจได้อีกด้วย โดยผนังบันไดทางลงชั้นใต้ดิน ถ้าใครได้ดูงานเปิดตัว หรือเคยไปที่ออฟฟิศของ Apple ที่ซานฟรานมาก่อน น่าจะพอรู้สึกได้ว่าคล้าย Steve Jobs Theatre1 อีกด้วย

Apple Store สาขานี้ถูกกล่าวถึงและชื่นชมจากคนในสายออกแบบสถาปัตยกรรมไม่ใช่น้อย เพราะงานแบบนี้ไม่มีให้เห็นมากนักในบ้านเรา ใครที่สนใจจะเดินทางไปชม Apple Central World แห่งนี้ ด้วยความที่ปัจจุบันยังอยู่ในช่วงโควิด ทาง Apple ได้มีการออกกฎที่ถูกนำไปใช้ทั่วโลก ทั้งในเรื่องของ Social Distancing จำกัดจำนวนคนเข้าร้าน และการรักษาความสะอาดและฆ่าเชื้อ ถ้าเกิดว่าใครต้องการมาเข้ารับบริการ อาจจะต้องต่อคิวรอเข้าร้านได้ ยังไงก็เผื่อเวลาเอาไว้หน่อยนึงด้วยละนะครับ