10 อันดับวัดที่สวยที่สุดในโลก จัดอันดับโดยเว็บไซต์ www.binscorner.com ซึ่งทั้ง10 วัดนั้นล้วนมีความวิจิตรงดงามอันน่าทึ่งถึงความมานะพยายามของผู้สร้าง และมีวัดของไทยติดอันดับ 2 ใน 10 อันดับด้วยเรียกว่าเป็นความน่าภาคภูมิใจฝุดๆ งั้นเราลองมาดูกันสิว่ามีวัดจากประเทศไหนบ้าง และมีวัดของไทย วัดไหนติดโผ เริ่มกันที่
วิจิตรตระการตา! 10 อันดับ…”วัดที่สวยที่สุดในโลก”
2. วัดร่องขุ่น, ประเทศไทย
ไม่จำเป็นต้องไปชื่นชมวัดต่างประเทศที่ห่างไกล เพราะเมืองไทยเราก็มีวัดสวย ๆ ให้แวะเวียนไปเช่นกัน โดยเฉพาะวัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ที่อยู่สูงถึงอันดับ 2 ซึ่งสิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากที่สุดก็อยู่ตรงที่สีขาวล้วนที่งดงาม ประณีต นั่นเอง ที่วัดนี้เป็นสีขาวไม่ใช่แค่เพียงเพื่อความงดงามอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีความหมายแฝงอยู่ด้วย โดยสีขาวของโบสถ์แทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า ในขณะที่กระจกขาวหมายถึงพระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์และจักรวาล
3. วัดพรัมบานัน, ประเทศอินโดนีเซีย
ณ ใจกลางเมืองจาวา ประเทศอินโดนีเซีย คือ วัดพรัมบานัน ศาสนสถานของศาสนาฮินดู ที่ถูกสร้างเอาไว้ตั้งแต่ปี 850 ซึ่งวัดที่มีอายุเก่าแก่นี้มี 8 แท่นบูชาหลัก ๆ และรายล้อมด้วยแท่นบูชาเล็ก ๆ เป็นจำนวนราว 250 เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงาม พร้อมกลิ่นอายของอารยธรรมเก่าแก่ประจำชาติ
4. พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง, ประเทศพม่า
แม้จะไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าพระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองถูกสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เชื่อกันว่ามันน่าจะมีอายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปีมาแล้ว จากรูปร่างสถาปัตยกรรมซึ่งมีลักษณะเหมือนสถาปัตยกรรมของพม่าในช่วงศตวรรษที่ 6-10 ทำให้เจดีย์ที่มีขนาดสูงราว 99 เมตรนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบของประเทศพม่าได้เป็นอย่างดี
5. หอฟ้าเทียนถาน, ประเทศจีน
ศาสนสถานของลัทธิเต๋า ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีนแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เพื่อใช้เป็นที่บวงสรวงเทพยดาของราชวงศ์หมิงมาก่อนจะถูกเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมกันได้ในปัจจุบัน ซึ่งทรงกลมแปลกตาทำให้วัดแห่งนี้ดูโดดเด่นไม่เหมือนใคร อีกทั้งหอฟ้าเทียนถานยังนับเป็นสถานบวงสรวงเทพยดาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ซึ่งยังคงถูกรักษาไว้ในประเทศจีนอีกด้วย
6. วัดจิออนอิน, ประเทศญี่ปุ่น
ในปี ค.ศ. 1234 วัดแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นักบวชโฮเนน ผู้ก่อตั้งพุทธนิกายโจโดที่มีชีวิตผ่านมรสุมมากมาย เพราะแม้จะมีผู้ติดตามอยู่มาก แต่ก็มีคนต่อต้านเยอะเช่นกัน ทำให้ท่านมีจุดจบที่น่าเศร้า ถูกเนรเทศในปี 1207 และแม้จะได้รับการให้อภัย ได้กลับกรุงโตเกียวในเวลาต่อมา แต่อยู่ได้ไม่นานก็เสียชีวิตลง ซึ่งพื้นที่กว้างขวางและต้นไม้เขียวชอุ่มรอบข้าง ทำให้วัดแห่งนี้ดูงดงามยิ่งขึ้นอีก
7. เจดีย์บุโรพุทโธ, ประเทศอินโดนีเซีย
เมื่อช่วงศตวรรษที่ 19 ชาวดัตช์ที่ไปอาศัยอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ได้พบสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในป่าจาวา และต่อมาได้ค้นพบว่ามันคือเจดีย์บุโรพุทโธ ศาสนสถานขนาดใหญ่ที่ทำจากหิน และมีพื้นที่ราว 55,000 ตารางเมตรนั่นเอง โดยเจดีย์บุโรพุทโธทรงดอกบัวนั้นประกอบด้วยพระพุทธรูปกว่า 504 องค์ด้วยกัน
8. วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ, ประเทศอินเดีย
วิหารฮัรมันดิร ซาฮิบ หรืออีกชื่อว่า วิหารทองคำ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1604 และมีทางเข้าผ่านประตู 4 ทาง ที่แสดงถึงความหมายของการเปิดรับตามศาสนาซิกซ์ และเพื่อรักษาไว้ไม่ให้ทรุดโทรมจนเกินไป มันจึงถูกบูรณะขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 1764 ทำให้วิหารสีทองแวววาวนี้ยังคงงดงามมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนที่แสงไฟทำให้เงากระทบน้ำเกิดเป็นสีทองตระการตา
9. วัดศรีรังกัม, ประเทศอินเดีย
ไม่ใช่เพียงแค่ความงดงามเก่าแก่เท่านั้น ที่ทำให้วัดศรีรังกัมมีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นวัดของศาสนาฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว แถมการออกแบบยังประณีตวิจิตรเสียทุกมุม เต็มไปด้วยองค์ประกอบแฝงรายละเอียดมากมาย และเล่นสีสันได้งดงามสะดุดตา สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะละเมียดละไมของชาวอินเดีย
10. ปราสาทนครวัด, ประเทศกัมพูชา
และแล้วก็มาถึงศาสนสถานแห่งสุดท้าย ซึ่งก็คือ ปราสาทนครวัด ศาสนสถานใหญ่ที่สุดในโลก ที่กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในนิยายและภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องนั่นเอง โดยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 เป็นผู้สร้างขึ้น เพื่ออุทิศถวายแด่องค์พระวิษณุที่พระองค์เชื่อว่าเป็นอีกร่างของพระองค์เอง และหากพระองค์ตายไปเมื่อใด ปราสาทนครวัดก็จะกลายมาเป็นสุสานที่หลอมรวมพระองค์และองค์วิษณุเข้าด้วยกัน