รวมถ้ำสวยอลังการ จากทั่วโลก ที่ควรไปสักครั้งหนึ่งในชีวิต
Waitomo Glowworm Caves, นิวซีแลนด์
ถ้ำอายุ 30 ล้านปีถูกค้นพบในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ความสวยงามของแสงสีฟ้าระยิบระยับราวกับทางช้างเผือกจำลองเกิดจากหนอนเรืองแสงสายพันธุ์ Arachnocampa Luminosa ซึ่งพบได้ในนิวซีแลนด์เท่านั้น
Niah Cave, มีรี, มาเลเซีย
ค้นพบในปี 1954 ถ้ำยุคก่อนประวัติศาสตร์แห่งนี้ดึงดูดความสนใจในวงกว้างเมื่อนักโบราณคดีพบกะโหลกศีรษะมนุษย์อายุ 40,000 ปี ที่เป็นหลักฐานสำคัญว่ามนุษย์ในยุคไพลสโตซีน เคยอาศัยอยู่ที่นี่ ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Niah ในรัฐซาราวักบนเกาะบอร์เนียว ถ้ำแห่งนี้สูง 300 ฟุต (90 เมตร) และกว้าง 600 ฟุต (180 เมตร)
Blue Grotto, คาปรี, อิตาลี
ถ้ำ Blue Grotto Capri ตั้งอยู่บนเกาะ Capri ด้วยความงดงามที่โดดเด่นของพื้นน้ำสีฟ้า ที่เรืองแสงในความมืดที่เกิดจากหักเหของแสงที่ส่องเข้ามาภายในถ้ำที่กระทบกับน้ำทะเลใส นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมถ้ำแห่งนี้ได้โดยเรือพายขนาดเล็กเท่านั้น ถ้ำแห่งนี้มีความยาว 196 ฟุตและกว้าง 82 ฟุต (60 x 25 เมตร)
Cave of Swallows, Aquismón, เม็กซิโก
รู้จักในชื่อ Sótano de las Golondrinas (ภาษาสเปน) ปล่องขนาดกว้าง 1,220 ฟุต (370 เมตร) และลึก 205 ฟุต (62 เมตร) ถือเป็นปล่องที่ใหญ่ที่สุดในโลก นี่คือสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักกระโดดเบสจัมป์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 วินาทีในการกระโดดจากปากปล่องถึงน้ำด้านล่าง ภายในถ้ำมีนกทำรังอยู่บนกำแพงจำนวนมาก
Jewel Cave, ดาโกต้า, สหรัฐอเมริกา
ถ้ำที่ยาวที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกแห่งนี้ ยาวถึง 313 กิโลเมตร ผนังภายในถ้ำประกอบไปด้วยคริสตัลและแมงกานีสสีดำทำให้ถ้ำเปร่งประกายสวยงามเมื่อกระทบแสงไฟ
Hang Sơn Đoòng,โบ๊จัก, กว๋างบิ่ญ, เวียดนาม
ถ้ำ Er Wang Dong ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง จังหวัดกว๋างบิ่ญ ถือเป็นถ้ำธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงโดยเฉลี่ย 655 ฟุต (200 เมตร) บางจุดสูงถึง 1,650 ฟุต (503 เมตร) ถ้ำแห่งนี้อุดมไปด้วยพันธ์พืชและสัตว์ต่าง ๆ มากมาย
Animal Flower Cave, Saint Lucy, บาร์เบโดส
ค้นพบในศตวรรษที่ 18 โดย 2 นักสำรวจชาวเวลส์ ในปี 1780 ถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ใต้หน้าผาทางตอนเหนือสุดของเกาะบาร์เบโดส ด้วยความสูงเพียง 6 ฟุตจากระดับน้ำทะเล นักสำรวจพบว่าถ้ำแห่งนี้ครั้งหนึ่งเคยอยุ่ใต้น้ำทะเล แต่เกาะบาร์เบโดสมีระดับสูงขึ้น 1 นิ้ว ทุกๆ 1,000 ปี นี่คือเหตุผลที่ภายในถ้ำมีแอ่งน้ำและพื้นถ้ำเต็มไปด้วยปะการังที่สวยงาม ถ้ำแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามของมหาสมุทรและเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเห็นวาฬหลังค่อมได้ในฤดูหนาว
Reed Flute Cave, กุ้ยหลิน, จีน
ภาพเขียนบนกำแพงบ่งบอกว่าถ้ำแห่งนี้คร้งหนึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของคนในสมัยราชวงศ์ถัง (คริสต์ศักราช 792) ด้วยความลึก 787 ฟุต หรือ 240 เมตร
ถ้ำใต้น้ำ Puerto Princesa, ปาลาวัน, ฟิลิปปินส์
ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี 1999 ด้วยความยาวถึง 8.2 กิโลเมตร นี่คือถ้ำแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก มีความสูง 262 ฟุต (80 เมตร) และยาว 1,181 ฟุต (360 เมตร)
อุทยานแห่งชาติ Onondaga Cave, มิสซูรี, สหรัฐอเมริกา
ถ้ำแห่งนี้ถูกค้นพบในปี 1886 โดย Charles Christopher และเพื่อนของเขา ในช่วงฤดูท่องเที่ยวระหว่างเดือนเมษายนถึงตุลาคม นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมมากมาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกไม่ว่าจะเป็นระบบน้ำและไฟที่ทั่วถึง ร้านค้าต่างๆ หรือแม้กระทั่งบริการซักรีด
Škocjan Caves, Divača, สโลวีเนีย
ถ้ำใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกในปี 2529 มีความยาว 3.7 กิโลเมตร มีแม่น้ำใต้ดินไหลผ่าน ถ้ำมีความลึกรวม 656 ฟุต (200 เมตร)
Jeita Grotto, เลบานอน
ประกอบด้วยถ้ำหินปูนเชื่อมต่อกันสองถ้ำ: ถ้ำบนและถ้ำล่าง ความยาวของถ้ำครอบคลุม 6 กิโลเมตร ถือเป็นถ้ำหินย้อยที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงสูงสุดมากกว่า 390 ฟุต (120 เมตร)
เครดิตแหล่งข้อมูล :msn.com/th